สุขใดเล่าจะเท่าการได้กินของอร่อย! ไม่ว่าจะเป็นวันธรรมดาหลังเลิกงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ แค่ได้จูงมือคนในครอบครัว หรือกอดคอแก๊งเพื่อนร่วมงาน เดินเข้าห้างสรรพสินค้าไปตากแอร์เย็นๆ กินของอร่อยด้วยกัน เท่านี้ก็เป็นความสุขที่แสนเรียบง่ายแต่สร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันได้แล้ว Krungsri Consumer มองเห็นความสำคัญของโมเมนต์เล็กๆ ที่สร้างความสุขแสนยิ่งใหญ่ให้กับมิตรภาพผ่านการกิน จึงอยากชวนทุกคนพกบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ไปตะลุยกินของอร่อยกับ 2 ร้านดังในห้าง กินให้คุ้มหลุดโลก แล้วรับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 17%* ทุกมื้อ ทุกวัน ทุกร้านอาหารทั่วไทย! พร้อมแชร์เคล็ดลับวิธีกินแบบอร่อยหลุดโลก ที่จะทำให้มื้ออาหารของคุณสนุกและสุขล้นขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน

AKA YAKINIKU

โมเมนต์จอยๆ มักจะเกิดขึ้นกลางวงบุพเฟต์เสมอ ฉะนั้นถ้าใครอยากสนุกกับการกินแบบจอยๆ แนะนำให้ชวนเดอะแก๊งไปตะลุยร้านบุพเฟต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นแสนอร่อยอย่าง AKA ที่สาขาใกล้บ้านเลย โดย AKA YAKINIKU นั้นเป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ยกขบวนความอร่อยมาเสิร์ฟแบบไม่อั้นในราคาเริ่มต้นเพียง 439+ บาท/คน และเมื่อคุณหยิบบัตรรู้ใจที่ใช่ทุกมื้ออย่างบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ขึ้นมาจ่ายค่าอาหาร ก็รับเครดิตเงินคืนรวมสูงสุด 17%* ได้เลยทันที!

ไม่เพียงแค่เนื้อเกรดดีที่ AKA คัดสรรมาเพื่อคนรักเนื้อโดยเฉพาะ แต่บุพเฟ่ต์ของร้าน AKA นั้นยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกอร่อยอีกเพียบ! โดยเราสามารถเลือกราคาความอร่อยได้ทั้งหมด 3 ราคา Red Buffet : 439+ / Gold Buffet : 629+ / Platinum Buffet : 759+ / Ultimate Buffet : 1199+ ขอแนะนำเป็น Gold Buffet เราว่าเมนูเยอะกำลังพอดี เพราะมีเมนูพิเศษ เช่น ข้าวยำเกาหลี เสี่ยวหลงเปาซุปต้มยำ ทาโกะยากิ และอื่นๆ ให้สั่งมาอร่อยเพิ่มเติมได้อีก ส่วนราคา Platinum นั้นน่าจะเหมาะกับคนที่ชอบซีฟู้ดมากกว่าค่ะ

เคล็ดไม่ลับ ทำตามได้ไม่ยาก กับ AKA YAKINIKU

แม้ปิ้งย่างในไทยนั้นจะมีหลายแบบให้เลือกรับประทาน แต่ AKA มีความแตกต่างจากปิ้งย่างร้านอื่นๆ ตรงที่ใช้เตาถ่านปิ้งย่างแบบตะแกรง ซึ่งเป็นสไตล์การปิ้งย่างแบบ "ยากินิคุแบบต้นตำรับ" ฉะนั้นทางกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงมีเคล็ดลับง่ายๆ อย่างเทคนิคการย่างเนื้อให้ฉ่ำ อร่อยล้ำเหมือนไปกินยากินิคุที่ญี่ปุ่น! ที่จะทำให้คุณได้เอนจอยกับการปิ้งย่างที่ร้าน AKA และลิ้มรสกับเนื้อย่างฉ่ำๆ ได้อร่อยเหมือนบินไปกินยากินิคุต้นรับที่ญี่ปุ่นด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่ทำตามได้ ดังนี้

1. ย่างเนื้อด้านแรกโดยไม่ต้องพลิกจนกว่าน้ำมันจากเนื้อจะซึมออกมา
2. เมื่อเนื้อเริ่มฉ่ำ ให้พลิกกลับอีกด้าน และย่างต่ออีกประมาณ 5 วินาที จะได้เนื้อที่สุกฉ่ำกำลังดี
3. เคล็ดลับคือ ควรพลิกเนื้อแค่ 1 ครั้ง เพื่อความสดฉ่ำของเนื้อ และได้เนื้อที่มีรสสัมผัสไม่หยาบกระด้างจนเกินไป
4. จิ้มกินกับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของ AKA อร่อยลืมโลกเลย!

MK Restaurants

พิสูจน์ความอร่อยที่คนไทยคุ้นเคยมาอย่างยาวนานกับร้านสุกี้ยากี้เจ้าแรกๆ ในประเทศไทยที่ปัจจุบันได้กระจายความอร่อยไปมากกว่า 450 สาขาทั่วประเทศ MK Restaurants น่าจะเป็นร้านที่หลายครอบครัวอุ่นใจที่จะเลือกไปอิ่มท้องในช่วงเทศกาลมากที่สุดร้านนึงเลยทีเดียว กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงขอจูงมือทุกคนเดินเข้าร้าน MK พร้อมบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ชวนไปลิ้มรสสุกี้หม้อใหญ่ในรสชาติที่คุ้นเคย พร้อมแชร์เทคนิคการกิน MK สองแบบสองสไตล์ ที่เลือกได้ทั้ง “สุกี้ยากี้” และ “ชาบูชาบู”

เคล็ดไม่ลับ ทำตามได้ไม่ยาก กับ MK Restaurants

แม้เราจะรู้จัก MK ว่าเป็น “สุกี้ยากี้” ในตำนาน แต่ความจริงแล้ว MK มีนิยามใกล้เคียง “ชาบูชาบู” มากกว่าตามแบบฉบับของคนญี่ปุ่นค่ะ โดย "สุกี้ยากี้" กับ "ชาบูชาบู" นั้นจะมีความแตกต่างกันที่น้ำซุป สำหรับ “สุกี้ยากี้” ตามแบบฉบับญี่ปุ่น จะเสิร์ฟในน้ำซุปน้อยๆ เมื่อเนื้อสัตว์สุกแล้ว จะนำมาจุ่มไข่ดิบก่อนรับประทาน ส่วน “ชาบูชาบู” ตามแบบฉบับญี่ปุ่น จะเสิร์ฟในน้ำซุปเยอะๆ ทานพร้อมน้ำจิ้ม เหมือนสุกี้ MK ตามสูตรปกติเลย

แน่นอนว่า คุณสามารถทาน MK ด้วยไวบ์ที่แตกต่างกันได้ แนะนำให้สั่งน้ำซุปสองแบบ พนักงานจะตั้งหม้อที่มีน้ำซุปสองฝั่งให้ โดยเลือกเป็นซุปน้ำดำกับซุปแบบต้นตำรับ และฝั่งซุปน้ำดำให้แจ้งกับพนักงานว่า ขอน้ำซุปน้อยๆ หรือรอน้ำซุปท้ายหม้อก็ได้ จากนั้นให้ต้มเนื้อตามปกติ พอได้เนื้อที่สุกกำลังดีแล้วก็นำขึ้นมาจุ่มไข่ดิบแล้วรับประทาน หรือถ้าอยากทานแบบ “ชาบูชาบู” ก็เอนจอยกับ MK ตามสูตรปกติได้เลย อ่อ แล้วอย่าลืมสั่งเป็ดย่างกับบะหมี่หยกมากินคู่กันด้วยนะ จะได้อร่อยฟินครบสูตร MK!

เรื่องกินเรื่องใหญ่! เพราะทำให้เรามีความสุขได้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จึงใส่ใจความอิ่มอร่อยในทุกมื้อของทุกคน เพียงพกบัตรรู้ใจก็พบความใช่ในทุกมื้อ พร้อมรับเครดิตเงินคืน รวมสูงสุด 17%* ทุกมื้อ ทุกวัน ทุกร้านทั่วไทย! แล้วมื้อหน้าเราจะพาไปอิ่มอร่อยกันที่ไหนอีก ยังไงก็อย่าลืมรอติดตามกันด้วยนะ สำหรับใครที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ หรือลงทะเบียนรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน UCHOOSE ได้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 67 - 30 มิ.ย. 67 เท่านั้นน้า!