5 พิกัดร้านกาแฟ ที่ Coffee Lover ไม่ควรพลาด

วันที่ : 02 Dec 2024 ผู้เขียน : Krungsri Consumer

ใกล้สิ้นปีแต่ยังมีเรื่องที่อยากทำให้สำเร็จอีกเยอะ ใครที่กำลังมองหาร้านกาแฟโซนกรุงทพฯ สวยๆ เข้าไปเช็กอิน ฮีลจิตฮีลใจ แถมอาหารและเครื่องดื่มก็ยังอร่อยแล้ว วันนี้กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะมาชี้พิกัด 5 พิกัดร้านกาแฟ ที่ Coffee Lover ไม่ควรพลาด และอย่าลืมไม่ว่าจะทริปไหนบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็พร้อมดูแลคุณในทุกการใช้จ่ายให้คุ้มค่าเสมอ สามารถดูโปรโมชั่นดีๆ จากเราได้เลยที่นี่ หรือสมัครบัตรผ่านแอปพลิเคชั่น UCHOOSE ได้เลย เอาล่ะ...ถึงเวลาแต่งแบบจัดเต็ม และหิ้วกล้องออกจากบ้านตามมาได้เลย !

1. ร้าน Nana Coffee Roasters

หากจะพูดถึงวงการคนทำกาแฟหรือนักดื่มกาแฟ หลายคนจะรู้จักชื่อร้านนี้ เป็นแบรนด์กาแฟที่มีทั้งโรงคั่วกาแฟระดับแนวหน้า และบาริสต้าระดับเวทีโลก รวมถึงผลงานที่การันตีได้จากความสวยงาม และความปังจากหลาย ๆ สาขา โดยรอบนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ พามาที่ Central Westville ที่มีคอนเซปต์การออกแบบสุดเก๋ ตั้งแต่ดีไซน์หน้าร้าน ซึ่งมีความใหญ่โดดเด่น ผนังลวดลายหินจริงนำมาดัดโค้งเพื่อสร้างมิติให้กับอาคารดูเรียบโก้แปลกตา ภายในจะพบกับความเคร่งขรึมของโทนสีเทาดำ ตัดสลับกันไปมาคล้ายผนังถ้ำ ซ่อนบานกระจกเล็กน้อยเพื่อให้แสงสว่างจากด้านนอกส่องเข้ามาทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด ซึ่งตัวร้านก็จะมีทั้งหมด 2 ชั้น แยกเป็นโซน ใครชอบความเงียบสงบแนะนำให้ขึ้นมาที่ชั้น 2 แต่ถ้าอยากได้กลิ่นหอม ๆ จากบาร์กาแฟพร้อมนั่งมองบาริสต้าอย่างใกล้ชิดสามารถนั่งชั้นล่างได้เลย

 

ที่นี่มีหลายเมนูที่น่าลอง ที่เลือกมาตัวแรกชื่อว่า H-A-N 3 (หาร 3) ตรงตัวตามชื่อคือเจ้าเมนูนี้จะมีเลเยอร์ทั้งหมด 3 ชั้น ล่างสุดคือเอิร์ลเกรย์เจลลี่ ถัดขึ้นมาที่ชั้นกลางคือกาแฟลาเต้เข้มข้น แล้วท้อปด้วยโฟมนมบราวน์ชูก้ารนไฟ สร้างรสสัมผัสที่แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ตัวต่อมาเป็น Signature ยืนหนึ่งของทางร้านชื่อว่า WAKE UP แก้วนี้คือการรวมตัวของส้มยูสุและกาแฟ เกิดเป็นรสชาติที่ดื่มง่าย สดชื่น ดื่มได้ตลอดวัน ปิดท้ายด้วยของหวาน Strawberry Tart ใครชอบเมนูหวานที่ไม่เลี่ยนจนเกินไปแนะนำตัวนี้เลย เพราะด้านล่างจะเป็นแป้งทาร์ตกรุบกรอบ มีครีมเบา ๆ แล้วตัดรสด้วยสตรอเบอร์รี่ ลงตัวสุด ๆ

2. ร้าน KSANA

ใครที่ชอบความมินิมอลมินิใจต้องร้านนี้ แต่ความสวยงามนั้นไม่มินิเลย จัดเต็มดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ใจกลางย่านเพลินจิต เป็นร้านสัญชาติสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่งคำว่า KSANA มาจาก 刹那 (setsuna) ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "ช่วงเวลา" เกิดเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบ ทางร้านตั้งใจให้ห้องชาสีขาวแห่งนี้มีแต่ความเงียบสงบ ให้ผู้ดื่มได้ใช้เวลาดื่มด่ำกับรสชาติ และกลิ่นหอม ๆ ของชาเขียวได้อย่างเต็มที่ ท่ามกลางเมืองหลวงด้านนอกที่แสนจะวุ่นวายนั่นเอง ยกให้เป็นหนึ่งคาเฟ่ร้านกาแฟที่อบอุ่นเป็นกันเอง

 

ความโดดเด่นของร้านนี้ นอกจากดีไซน์ร้านที่มองดูเป็นลักษณะของตัวถ้ำแล้ว เรื่องเครื่องดื่มก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นชาคุณภาพดีที่ถูกคัดสรรมาจากไร่ชาฝนประเทศญี่ปุ่น ทั้งกลิ่น และรสสัมผัสเหมือนได้บินไปทานที่ญี่ปุ่นจริง ๆ อย่างครั้งนี้ได้ลองเลือกเมนูมา 2 แบบคือ Coastal Breeze ชาเขียวแบบใส มีสัมผัสเบาดื่มง่าย และ Bitter Rainforest เป็นแบบผสมนม รสชาติจะเข้มข้นละมุนมาอีกหน่อย ส่วนเมนูของหวานมีให้เลือกไม่มากนัก ส่วนใหญ่เป็นขนมของญี่ปุ่นอย่าง Kingyokukan ตัวนี้เป็นเยลลี่โฮมเมดญี่ปุ่นแบบดั่งเดิมที่ทางร้านทำเองทุกชิ้น เมื่อทานเข้าไปให้ความรู้สึกสดชื่นของส้มยูสุ ทางร้านมีเมนูไม่ค่อยเยอะ แต่ที่เยอะคือคุณภาพในแต่ละเมนูคือระดับพรีเมี่ยมจริง ๆ

3. ร้าน Ittha Boutique Café

เบรคความมินิมอลกันก่อน แล้วมาต่อกันด้วยร้านนี้ ภาษาไทยอ่านว่า “อิฏฐา” คาเฟ่ใกล้ BTS ปุณณวิถี เป็นคาเฟ่ที่ทางเข้ามีความลึกลับซับซ้อนน้อยคนที่จะรู้จัก เรื่องความอลังกาลของสถาปัตยกรรมนั้นไม่แพ้ร้านไหน จัดเต็มกับบรรยากาศตกแต่งสไตล์กลิ่นอายย้อนยุคของยุโรปเก่า ทั้งราวเหล็กบันไดวน ประตูโค้ง กำแพงอิฐกับปูนเปลือย บวกกับเฟอร์นิเจอร์สวย ๆ ลงตัวอย่างไม่มีที่ติเลย ภายนอกร้านเป็นอาคารสีขาวทึบ พร้อมเลข 88 เหนือบานประตูไม้ เป็นสัญลักษณ์บอกว่าเพื่อน ๆ ได้มาถูกทางแล้ว

 

ตัวอาคารแม้ว่ามองดูจากด้านนอก ตัวร้านจะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่เมื่อได้เดินเข้ามาด้านในกลับดูโล่งกว้าง มีโซนให้เลือกนั่งหลายมุม เลือกถ่ายรูปหลายจุด และอาหารก็มีหลายอย่าง ทั้งเครื่องดื่ม ขนมทานเล่นพร้อมเสิร์ฟ วันนี้เลือกสั่งมาเป็นเมนู Latte Art เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของร้าน เสมือนว่ากำลังนั่งจิบกาแฟอยู่แถบ ๆ ชานเมืองในต่างประเทศ อีกเมนูคือ Dirty Coffee ยอมใจในความละมุนของรสกาแฟ ดื่มเพลินสุด ๆ จุดเด่นแนวคิดเรื่องการทำอาหารของเขาดีมากเลย เป็นแนวอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่ทำลายสุขภาพ และทางร้านเขาเปิดเป็นชอปเครื่องหอมสปาภายใต้แบรนด์ PHNA สำหรับขายเจลล้างมือ ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในสปา และมีโซน Art gallery ที่มีรูปภาพประดับตลอดทางเดินให้ชมอีกด้วย ด้วยร้านที่สวยงามไม่เหมือนใคร ทำให้ที่นี่เป็นที่ถูกอกถูกใจของสาวๆ ที่คลั่งรักการถ่ายรูปที่สุด

4. ร้าน BK Salon

คาเฟ่และร้านอาหารย่านสาธุประดิษฐ์ที่มีดีไซน์ร้านสะดุดตา แปลกใหม่ ท้าทายให้ดินทางมาที่นี่ มองจากด้านนอกเพื่อน ๆ อาจจะยังคิดไม่ออกว่ารูปทรงคล้ายอะไรนะ แต่ถ้าเฉลยว่า “กระติ๊บข้าวเหนียว” คงถึงกับร้องอ๋อขึ้นมาทันที! เพราะเป็นคอนเซปต์ของร้าน มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นที่ทำให้ใครหลายคนลืมคาเฟ่แบบเดิม ๆ ไปได้เลย ร้านนี้เป็นคาเฟ่แนวห้องนั่งเล่น เปิดตั้งแต่เช้าจนถึงกลางคืน ทางร้านเลยออกแบบมาให้มี 2 บรรยากาศ ช่วงเช้าว่าสวยแล้ว ช่วงเย็นเปิดไฟอลังการสวยเด่นขึ้นมามากกว่าเดิมอีก ร้านนี้เปิดขายอาหารตั้งแต่เช้ายันค่ำ เสิร์ฟความอร่อยด้วยเมนูที่แตกต่างกันออกไปตามช่วงเวลา อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารไทย ของทานเล่นมีครบ มีโซนคาเฟ่เล็ก ๆ สำหรับแขกมานั่งแช่นั่งชิล ชมความงามของร้านได้อีกด้วย ตามทางเดินจะเต็มไปด้วยลวดลายของซี่ไม้ที่โดนแสงส่องลงมายังพื้นด้านล่าง ไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็ดูคลีนขาวสว่างไปทั่วตัวร้าน แนะนำใครที่จะมาร้านนี้ต้องแต่งตัวสีโดดเด่นหน่อยนะ ร้านที่ว่าสวยแล้ว คนถ่ายต้องสวยสู้กว่าจ้า

 

เมนูที่แนะนำคือ “ข้าวเหนียวมะม่วง” จัดเสิร์ฟมาในรูปแบบของดอกไม้ เขาดูมีความประณีตในการจัดจานมาก อีกเมนูคือ “Harb bualoy” เมนูแปลกใหม่ที่นำเอากาแฟมาจับคู่กับขนมบัวลอย หลายคนคิดว่ามันจะเข้ากันหรอ บอกได้เลยว่าต้องลองงงง! จะทานแยกหรือทานรวมก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน แอบกระซิบว่าทีเด็ดอยู่ที่ครีมกระทิอบควันเทียนด้านบนแก้วที่หอมละมุนใจ ใครได้ทานคือละมุนลิ้นมากเลย จากด้านนอกที่มีดีไซน์สีขาวเมื่อเดินเข้ามาด้านในตัวร้านกลับมีสีสันที่โด่นเด่นขึ้นทันตา ไม่ว่าจะเป็นตัวเบาะนั่ง สีของซี่ไม้ต่าง ๆ ทำให้บรรยากาศโดยรวมของร้านดูสนุกสนานขึ้น ทางร้านยังมีโซนกลางแจ้งด้านนอกสำหรับช่วงเย็นให้แขกออกมานั่งเพลิดเพลินกับอาหาร และบรรยากาศ หรือถ้าใครจะมาเป็นแก๊ง แล้วอยากเหมาห้องจัดงานเค้าก็มีโซน Private ไว้รองรับเช่นกันน้า

5. ร้าน Dawn to Dusk

ปิดท้ายด้วยร้านนี้ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ย่านกรุงเทพกรีฑา คาเฟ่ใหญ่มาก ใหญ่ทั้งพื้นที่ ใหญ่ทั้งอาคาร และใหญ่ทั้งที่จอดรถ ไม่ต้องกลัวไม่มีที่จอดรถ หน้าร้านมีที่จอดรถไว้เยอะมาก ร้านนี้เป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหารในที่เดียว เดินเข้ามาหน้าร้านตื่นตาตื่นใจกับรูปทรงอาคารอิฐสีส้ม ตัวร้านเป็นกำแพงสูงตกแต่งด้วยอิฐมอญ ออกแบบได้อย่างลงตัว ถ่ายรูปสวยได้ทุกมุมเลย เจ้าของร้านบอกว่าอยากให้คาเฟ่ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งตอนเช้าและตอนกลางคืน และคนในครอบครัวชอบทำขนม เลยตั้งใจเปิดร้านนี้ขึ้นมานั่นเอง มีคอนเซปต์ที่หยิบเอาตำนานเรื่องเล่าของพระจันทร์กับพระอาทิตย์มาเป็นไอเดียการดีไซน์ สังเกตได้จากมีพระอาทิตย์ พระจันทร์ และกระต่ายอยู่ในร้านหลายจุดเลย ส่วนตัวรู้สึกชอบมากกับสตอรี่ของร้าน ตัวร้านแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ โซนคาเฟ่ โซนร้านอาหารและบาร์ และโซนสวนด้านหลัง ที่เป็นสนามหญ้ากว้าง ๆ นั่งเล่นกันเพลิน ๆ โซนนี้สามารถพาสัตว์มาเล่นได้นะ แต่สำหรับรอบนี้ขอพาชมแค่ส่วนของคาเฟ่กันก่อน เข้าไปข้างในตัวร้านเป็นห้องกระจกใสภายใต้อาคารอิฐมอญ มีเพดานสูงโค้งเป็นซุ้ม

 

สิ่งหนึ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนคือตอนเดินเข้ามาในร้านจะได้กลิ่นหอม ๆ ของครัวซองค์ ลอยอบอวลไปทั่วร้าน เมนูครื่องดื่มและเบเกอรี่ก็ค่อนข้างหลากหลาย มีราคาที่ไม่แพงเลย เป็นราคาที่เข้าถึงได้ มีเมนูอย่าง Specialty Coffee ก็มีให้ลองชิม หนึ่งในที่น่าสนใจคือ “Iced Tiramisu Latte” เครื่องดื่มแยกชั้นที่ต้องทานคู่กันในครั้งเดียว หอมอร่อยกลมกล่อม ยกให้เป็นเมนูสำหรับคนรักกาแฟตัวจริง “Iced Chocolate” ช็อกโกแลตเข้มข้นสุดพรีเมี่ยมนำเข้าจากฝรั่งเศส พร้อมเมนูของหวาน อร่อยมาก สังเกตได้จากลูกค้าแต่ละโต๊ะต้องมีของหวานเคียงคู่ และถ้าใครที่ได้มาช่วงค่ำ ร้านเขาเปิดไฟประดับรอบคาเฟ่ ได้อีกหนึ่งบรรยากาศเลยค่า เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่ไปที่นี่ที่เดียว อิ่มครบทั้งเครื่องดื่ม ขนม อาหาร และอิ่มกับบรรยากาศ อิ่มอกอิ่มใจเหมาะสำหรับมาใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยทีเดียว

หวังว่าทั้งคอกาแฟและเหล่า Café hopping ทั้งหลายจะถูกใจกับบทความนี้ ครั้งหน้า กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะมีบทความดีๆ เกี่ยวกับอะไรมาฝากกันรอติดตามไว้ได้เลย อันที่จริงยังมีอีกหลายร้านมาฝากแน่นอน ขอย้ำกันอีกครั้ง...ไม่ว่าจะทริปไหนบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็พร้อมดูแลคุณในทุกการใช้จ่ายให้คุ้มค่าเสมอ ไม่ว่าจะเป็นโปรปัง ดีลเด็ด Cashback โดนๆ รวมถึงสิทธิพิเศษอีกมากมายมาก ที่รับรองว่าช่วยพลิกมุมเที่ยวของคุณ ด้วยมุมมองใหม่ๆ เพิ่มความสุขให้คุณไปต่อในก้าวที่ไกลกว่าเดิมแน่นอน

 

- บัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวน
ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

- สินเชื่อส่วนบุคคล กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
อัตราดอกเบี้ยปกติ 25% ต่อปี

แชร์บทความนี้ไปยัง

บทความน่าสนใจอื่นๆ