Ready For Japan กรุงศรี คอนซูมเมอร์พาฟินบินไปดูดอกซากุระบาน 2024

วันที่ : 29 Mar 2024 ผู้เขียน : Krungsri Consumer

ใครว่ากุมภาพันธ์จะเป็นสีชมพูแค่เดือนเดียว สายเที่ยวเขารู้กันดี ว่าช่วงคาบเกี่ยวระหว่างเดือนนี้ ปลายกลางมีนาคมยาวไปถึงพฤษภาคมแบบนี้ ที่ญี่ปุ่นเองก็เข้าสู่ช่วงฤดูใบไม้ผลิสีชมพูแทบจะทุกที่เช่นกัน ใช่แล้ว...เรากำลังพูดถึงเทศกาลดอกซากุระบานอย่างไม่ต้องสงสัย ใครที่อยากท่องเที่ยว บินไปญี่ปุ่นชมความงามของธรรมชาติ ตอนนี้ก็นับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด เพราะลมหนาวเริ่มทิ้งช่วง ลมอุ่นเริ่มเข้ามาเยือนแทนที่ เป็นฤดูกาลที่เรียกว่าทั้งชาวญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยวมากมายรอคอย แต่ทั้งนี้ คงต้องบอกว่าช่วงเวลาที่ดอกซากุระจะบาน และสวยที่สุดนั้น ก็คงแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ วันนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะขอพาคุณไปเช็กอินยังจุดชมดอกซากุระทั่วทั้งเกาะญี่ปุ่น พร้อมตารางพยากรณ์ดอกซากุระบานจากสมาคมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMC : Japan Meteorological Corporation) ประจำปี 2024 แบบอัพเดตล่าสุด ไว้ใช้สำหรับวางแผนการเดินให้ราบรื่นไม่มีสะดุด

แน่นอนว่าสนุกฟินยิ่งขึ้นได้อีก เดินทางครั้งไหน ที่ใดก็มั่นใจได้เสมอ อย่าลืมพกบัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น บัตรเครดิต กรุงศรี บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ บัตรเครดิตและสินเชื่อเซ็นทรัล เดอะวัน บัตรเครดิตโลตัส และบัตรเครดิตและสินเชื่อโฮมโปร ผู้ช่วยรู้ใจในทุกการใช้จ่าย ครอบคลุมในทุกไลฟ์สไตล์ความชอบ เพื่อให้คุณเป็นต่อในก้าวที่ไกลกว่าเดิม พิเศษ! เที่ยวฟิน in JAPAN กิน เที่ยว แล้วช้อปเป็นสกุลเงินเยนที่ญี่ปุ่นรวมช้อปออนไลน์ รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 5,200 บ.*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด (ลงทะเบียน JPN) เพียงสะสมยอดใช้จ่ายเป็นสกุลเงินเยนที่ญี่ปุ่นรวมช้อปออนไลน์ (เว็บไซต์ที่จดทะเบียนประเทศญี่ปุ่น) ตามเงื่อนไขตลอดรายการ ระยะเวลาโปรโมชั่น 1 ม.ค. 67 - 30 เม.ย. 67 รายละเอียดเพิ่มเติม คลิก และอุ่นใจยิ่งขึ้น...กับแผนประกันกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่พร้อมช่วยดูแลคุ้มครองเคียงข้างคุณไปตลอดทริปเช่นกัน หรือหากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อเราได้เลยที่นี่ คลิก

มาจดลิสต์เที่ยวญี่ปุ่นให้ฟิน แล้วบินไปดูดอกซากุระพร้อมกันเลย ~

2024 นี้ เที่ยวญี่ปุ่น ชมดอกซากุระบานช่วงไหนดี?

ก่อนจะไปอิ่มเอมกับช่วงเวลาสีชมพูที่ธรรมชาติสรรค์ไว้อย่างสวยงามสร้างนั้น บัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ขอทุกคนชวนมาทำความรู้จักเสน่ห์ของเทศกาลชมดอกซากุระของชาวญี่ปุ่นไปพร้อมกันก่อนซักนิด น่าจะเป็นการช่วยเพิ่มอรรถรสทางความรู้สึกของการดื่มด่ำที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น

การชมดอกไม้ หรือ เทศกาลชมดอกไม้นั้น คนญี่ปุ่นเรียกกันว่า โอะฮะนะมิ (お花見:Ohanami) เป็นประเพณีดั้งเดิมที่ได้รับสืบทอดกันมากว่าพันปี แต่อย้อนกลับไปสมัยเมื่ออดีต การชมความงามของดอกไม้ใช่ว่าใครก็สามารถทำได้ มีคำบอกเล่าจากข้อสันนิษฐานเก่าก่อนจากบทกลอนว่า สมัยนารา(奈良 Nara: พ.ศ. 1253 – 1336) ที่น่าจะเป็นยุคเริ่มต้นนั้น มีเพียงชนชั้นเจ้านายในรั้วในวังเท่านั้น ที่ได้รับสิทธิ์รื่นรมย์กับความงามจากธรรมชาตินี้ และช่วงสมัยนั้นก็ไม่ใช่การชมดอกซากุระแต่อย่างใด กลับเป็นชมดอกเหมย หรือ บ๊วย ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าอุเมะ (梅:ume) กันเสียมากกว่า แต่ต่อมาในสมัยเฮอัน (平安 Hēan: พ.ศ. 1337 – 1728) การชมดอกไม้ก็ได้ค่อยๆ แปรเปลี่ยนมาเป็นดอกซากุระ ในช่วงที่อากาศอบเริ่มอุ่นขึ้น เป็นการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิที่แท้จริง เหมาะกับจัดงานเทศกาลเพื่อเฉลิมฉลองเทพเจ้าและฤดูใบไม้ผลิเวียนกลับมาอีกครั้งหนึ่ง เป็นเช่นนั้นเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

คำว่า ซากุระ นั้น มีที่มาจากหลากหลายทฤษฎี แต่หนึ่งในนั้นซึ่งยังคงแพร่หลายคือ ความหมายถึงต้นไม้หรือสถานที่ของเทพเจ้าแห่งธัญพืช เพราะคำว่า sa ชาวญี่ปุ่นดั้งเดิมเล่าว่าหมายถึงดวงวิญญาณของธัญพืช ส่วน kura อาจแปลได้ว่าเป็นที่สถิตย์ของเทพเจ้า หรือ หากแปลตามความหมายในดิกชันนารีแล้ว saku (咲く) ในปัจจุบันจะหมายถึงดอกไม้ที่เบ่งบาน ส่วนคำว่า ra บ่งชี้ถึงสิ่งมีจำนวนมาก ซากุระจึงอาจหมายถึง ดอกไม้ที่เบ่งบานพร้อมกันเป็นจำนวนมากก็ได้เช่นกัน ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งคือ เป็นคำที่เพี้ยนมาจากพระนามของ เจ้าหญิงโคโนฮานาซากูยะ (木花之開耶姫 : Konohanasakuya-hime) ตามความเชื่อในตำนานเทพญี่ปุ่น จาก ซากูยะ เป็น ซากุระ ดังเช่นในปัจจุบัน และสัญลักษณ์ประจำกายของเจ้าหญิงเองก็เป็นดอกไม้ชนิดนี้เช่นกัน เอาล่ะ...เมื่อเราพอทราบที่มาที่ไปของการชมดอกซากุระบานกันพอประมาณแล้ว มาดูกันต่อดีกว่าว่าหากอยากชื่นชมความสวยงามกันให้เต็มอิ่ม จะสามารถไปเช็กอินตามจุดไหนกันได้บ้าง

อย่างที่ทราบกันดี ว่าดอกซากุระนั้นมีความบอบบาง บานสะพรั่งอยู่บนต้นได้เพียงราวๆ หนึ่งสัปดาห์เท่านั้น ดังนั้นแล้ว หากใครอยากเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเทศกาลชมดอกไม้ ก็ยิ่งมีความจำเป็นจะต้องตรวจดูให้แน่ชัดว่าแต่ละพื้นที่นั้น ต้นซากุระจะเริ่มออกดอกเมื่อไหร่ และบานเต็มที่ตอนไหน แน่นอนที่สุดว่าในเดือนอะไรด้วย ซึ่งก็อย่างที่ได้บอกไว้ในข้างต้น ตอนนี้ทางสมาคมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMC : Japan Meteorological Corporation) ได้ออกตารางพยากรณ์ช่วงเวลาดอกซากุระบานในญี่ปุ่น ประจำปี 2024 มาเรียบร้อย อัพเดตล่าสุดครั้งที่ 9th เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2024 แบบสดๆ ร้อนๆ ใครที่กำลังมาหารีบเซฟเก็บไว้ได้เลย จะได้ไม่พลาด (ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก JMC : Japan Meteorological Corporation)

จุดชมดอกซากุระทั่วญี่ปุ่นที่เราอยากแนะนำ

บอกกันตรงนี้เลยว่า พิกัดชมดอกซากุระบานทั่วญี่ปุ่นนั้นมีมากเกินหลัดพันแห่ง ด้วยเป็นช่วงเวลาที่ทั้งคนในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกรอคอยเดินทางมาเยือน ดังนั้นแล้ว แน่นอนว่าทางรัฐบาลย่อมต้องจัดให้มีสถานที่รองรับความต้องการเหล่านี้ให้เพียงพอ ด้วยความหลากหลาย และความแตกต่างของภูมิประเทศในจุดต่างๆ จึงทำให้ความสวยงามที่จะได้พบเจอนั้นไม่เหมือนกัน แน่นอนว่าเป็นอะไรที่ตัดสินใจได้ยาก บัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เลยมัดรวมมาแชร์ให้ 5 พิกัดชมดอกซากุระบานที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลองไปเยือน รับรองเลยว่าไม่มีผิดหวัง

1. สวนสาธารณะโกเรียวคาคุ (Goryokaku Park)

สวนสาธารณะชื่อดังในจังหวัดฮอกไกโด สถานที่แรกที่เราอยากแนะนำ และที่ตั้งของป้อมปราการสไตล์ฝรั่งเศส Goryokaku Tower (โกเรียวคาคุ ทาวเวอร์) ซึ่งเมื่อขึ้นไปทางด้านบนแล้ว จะมองลงมาเห็นสวนเป็นรูปดาว หนึ่งในสถานที่ทางประวัติศาสตร์อายุยาวนานกว่า 150 ปี แน่นอนว่าในช่วงเทศกาลชมดอกไม้แบบนี้ ทุกคนจะได้มองเห็นภาพดอกซากุระแหล่งชมซากุระขึ้นชื่อกว่า 1,600 ต้นบานสะพรั่งจากมุมสูง ที่สวยงามทอดยาวไปจนสุดสายตา เป็นสีชมพูทั่วทุกมุมตลอดสวนกันเลยทีเดียว

2. ถนนชิซึไนนิจุกเค็ง (Shizunai Nijukken Road)

ถนนสายนี้ได้รับเลือกให้เป็น "มรดกแห่งฮอกไกโด" เพราะทั้งสองฟากฝั่งตลอดะยะทางตรงยาวกว่า 7 กม. นี้มีดอกซากุระบานชมพูกว่า 3,000 ต้นบานสะพรั่งเรียงรายให้มองไปตลอดไม่มีเบื่อ อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวช่วงชมดอกไม้ที่ควรไปเยือนสักครั้งในช่วงต้นเดือนถึงกลางเดือนพฤษภาคมนี้

 

3. แม่น้ำเมกุโระ (Meguro River)

หนึ่งในสถานที่ชมดอกซากุระขึ้นชื่อโตเกียว ที่ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้จะพร้อมใจกันบานสะพรั่งกว่า 800 ต้น เปลี่ยนบริเวณริมสองฝั่งแม่น้ำรวมระยะทาง 4 กิโลเมตร ให้กลายสีชมพูของดอกซากุระสดใส จนผู้คนต้องแวะเวียนมาเยี่ยมชม นอกจากโดเด่นในเรื่องความสวยงามแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารมากมายให้ลองชิม สินค้ามากมายให้ซื้อหา และไฮไลท์ยามค่ำคืนที่ของแสงไฟที่ประดับประดาไว้บนต้นซากุระอย่างสวยงามอีกด้วย เรียกได้ว่าสามารถมาเดินเล่นชมความสวยงาม ได้ตั้งแต่กลางวันจนถึงกลางคืนไม่มีเบื่อเลยจริงๆ

4. เจดีย์ ชูเรโต (Chureito Pagoda) ภูเขาฟูจิ

อีกหนึ่งแหล่งชมดอกซากุระกว่า 650 ต้น ภายในสวนอาราคุระยามะเซ็นเก็น (Arakurayamasengen Park) ตั้งอยู่เมืองฟูจิโยชิดะ ซึ่งมีจุดเด่นคืออยู่ใกล้กับภูเขาฟูจิ ผู้มาเยือนจะสามารถเพลิดเพลินและอิ่มเอมกับทัศนียภาพของเจดีย์จูเรโต 5 ชั้นไปและภูเขาฟูจิ ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ยิ่งในช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ บริเวณจุดชมวิวของบนยอดเขาแห่งนี้นั้น จะสามารถชมดอกซากุระบานจากมุมสูง คู่ไปกับภูเขาฟูจิและเจดีย์ชูเรโตได้ในเวลาเดียวกัน เป็นสีแดงและสีชมพูที่ตัดกับท้องฟ้าปลอดโปร่ง เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่สวยงามลงตัว และเป็นอีกหนึ่งจุดถ่ายรูปชั้นเยี่ยมซึ่งไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

5. สวนทาคาโตะโจชิ (Takato Joshi Park)

1 ใน 3 แหล่งชมซากุระขึ้นชื่อของญี่ปุ่น ในจังหวัดนากาโนะ โดยเอกลักษณ์เฉพาะของดอกซากุระในสวนทาคาโทโจชินี้ เรียกว่า ทาคาโทโคฮิกันซากุระ (Taktokohiganzakura) มีความพิเศษคือดอกสีแดงค่อนข้างเล็ก และมีลำต้นคดเคี้ยวคล้ายมังกรที่ทรงพลัง ว่ากันว่าเพราะความเป็นพืชเฉพาะถิ่นซึ่งหาที่ไหนไม่ได้ ทำให้มันได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติประจำจังหวัด ถึงขนาดเรียกกันว่า "ซากุระอันดับ 1 ในโลก" ในปี ค. ศ. 1960 เลยทีเดียว จุดที่เป็นไฮไลท์คือบริเวณสะพานซากุระอุงเคียว ที่ว่ากันว่าเมื่อลองมองไปยังดอกซากุระบานสะพรั่ง มันจะดูเหมือนเป็นกลุ่มก้อนเมฆที่สวยงาม กับบริเวณที่ตั้งของ คาซึมะ ยาคุชิโดะ ต้นซากุระเก่าแก่ขนาดใหญ่อายุประมาณร้อยกว่าปี ที่มีกิ่งก้านโน้มลงมาและดอกซากุระที่พลิ้วไหวไปตามสายลมอย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอิน ที่เราอยากให้ทุกคนลงมาแวะเวียนมาเพลิดเพลินเยี่ยมชมกัน

เกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยในการชมดอกซากุระ

เทศกาลชมดอกไม้เป็นเรื่องของการอิ่มเอมไปกับความงดงามจากธรรมชาติ แต่ก็อย่างที่เราได้เห็นกันจนชินตาในสื่อต่างๆ โดยเฉพาะซีรี่ส์หรือการ์ตูอนิเมะ ในปัจจุบันนี้การชมดอกซากุระของคนญี่ปุ่นนั้น จะมีภาพของการเฉลิมฉลองและอาหารการกินเข้ามาร่วมด้วย บัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เลยเกร็ดน่ารู้เล็กน้อยมาฝากเพิ่มเติม หนึ่งในอาหารที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับเทศกาลนี้คงจะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก “ขนมดังโงะ”

เดิมทีขนมชนิดนี้ ในสมัยโบราณใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาสำหรับบูชาเทพเจ้าของชาวญี่ปุ่น แต่ในปัจจุบันนี้ขนมดังโงะถูกนำมาใช้ในเทศกาลชมดอกซากุระ หรือที่เรียกว่า ฮานามิดังโงะ (Hanami dango) ซึ่งมีสามสีอย่างที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปคือสีชมพู สีขาว และสีเขียว โดยแต่ละสีจะมีความหมายตามความเชื่อที่แตกต่างกันไป

  • ความหมายถึงช่วงเวลาผลิบานของดอกซากุระ โดยสีชมพูคือช่วงเวลาดอกที่ยังตูม เมื่อบานออกจะเปลี่ยนเป็นสีขาว และสีเขียวคือใบไม้ที่ล้อมรอบ
  • ความหมายถึงการผันเปลี่ยนของฤดูกาล ซึ่งสีชมพูจะเป็นตัวแทนของดอกซากุระในฤดูใบไม้ผลิ สีขาวคือหิมะในฤดูหนาวที่เพิ่งผ่านไป ส่วนสีเขียวเป็นต้นไม้ตัวแทนของหน้าร้อนที่กำลังใกล้เข้ามา
  • ความหมายถึงการมาเยือนของฤดูใบไม้ผลิ ให้สีชมพูคือดอกซากุระ สีขาวคือหิมะเป็นยังหลงเหลือ และสีเขียวคือต้นหญ้าที่เพิ่งงอกเงย

นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องน่ารู้ที่เราทุกคนควรระมัดระวังกันไว้ ไม่เพลิดเพลินกับการชอมดอกซากุระเกินไปจนหลงลืม เพราะหนึ่งในกฎเหล็กข้อห้าม ที่ขนาดว่าทางสถานฑูตยังต้องออกมาขอความร่วมมือ นั่นก็คือ ห้ามจับหรือเด็ดดอกซากุระ รวมถึงการหักกิ่งก้านส่วนหนึ่งส่วนใดเป็นเด็ดขาด แม้แต่การโน้มกิ่งต้นซากุระลงมาถ่ายรูปก็ไม่สมควรเช่นกัน เนื่องจากซากุระเป็นต้นไม้ค่อนข้างบอบบาง พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุให้ต้นซากุระบอบช้ำ หรือเฉาตายได้ในที่สุด รู้แบบนี้แล้ว...ใครที่ตั้งใจเดินทางไปชมความสวยงามของดอกซากุระ ก็อยากให้ยึดถือข้อห้ามนี้ไว้เช่นกันน้า ~

เป็นยังไงกันบ้างกับเรื่องราวสนุกสนานที่จะช่วยให้การเที่ยวญี่ปุ่น ชมดอกซากุระบานของทุกคนฟินยิ่งขึ้น อย่าลืม...พกบัตรเครดิตและสินเชื่อในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ไปด้วย บัตรเดียวครบคุ้ม เพราะรวมสิทธิพิเศษมากมายครอบคลุมทุกการเดินทางท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นเอาไว้ให้แล้ว ผู้ช่วยรู้ใจในทุกการใช้จ่าย จะไลฟ์สไตล์แบบใด หรือว่าความชอบแบบไหน เราก็พร้อมดูแล ส่วนจะมีเรื่องราวของประเทศญี่ปุ่นที่น่าสนใจในมุมไหนมานำเสนออีก คงต้องรอติดตาม แต่บอกเลยว่าไม่มีทางผิดหวัง เพราะ "เรื่องญี่ปุ่นต้องกรุงศรี!" またね ♡

 

- บัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวน
ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

- สินเชื่อส่วนบุคคล กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
อัตราดอกเบี้ย 25% ต่อปี

 

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก: สมาคมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น, ผู้จัดการออนไลน์ (วาไรตี้, ญี่ปุ่นมุมลึก), TPA Press, Japan Travel, MATCHA - JAPAN TRAVEL WEB MAGAZINE

แชร์บทความนี้ไปยัง

บทความน่าสนใจอื่นๆ