แจกพิกัด 4 ร้านโรแมนติกสำหรับวันเวาเลนไทน์ 2024

กุมภาพันธ์ถือเป็นเดือนพิเศษสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะคู่รักกำลังมองหาสถานที่สุดพิเศษ สำหรับการออกเดทในวันวาเลนไทน์ที่ไม่เหมือนใคร กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ร่วมกับ Chill with me ขอมาแนะนำแจกพิกัด 4 ร้านโรแมนติก สำหรับเดือนแห่งความรักที่จัดเต็มแบบม้วนเดียวจบ ทั้งความสวยงาม บรรยากาศและองค์ประกอบที่ครบครัน ที่สำคัญคืออาหารอร่อย เหมาะกับการพาคนพิเศษและครอบครัวไปแวะเวียนได้แบบฟินอกฟินใจตลอดเดือนแห่งความรักนี้เลย ให้ทุกวันของคุณเป็นวันพิเศษที่แสนประทับใจได้ง่ายๆ ด้วยบัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ที่พร้อมช่วยดูแลทุกไลฟ์สไตล์ คุ้มค่าทุกการใช้จ่าย เพื่อคุณเป็นต่อในก้าวที่ไกลกว่า

Lacol Bangkok

มาเริ่มร้านแรกที่คะแนนความโรแมนติกพุ่งสูงปรี๊ด! กับร้านอาหารสุดหรูบน Rooftop ชั้น 30 ของโรงแรม Staybridge Suites Bangkok Thonglor ย่านทองหล่อเดินทางสะดวก ความน่าสนใจของร้านนี้ มีรูปแบบการนำเสนอที่ไม่ซ้ำใคร กับดีไซน์การออกแบบที่มีกลิ่นอายสไตล์ยุโรป เป็นโดมแก้วที่สุดอลังกาลตกแต่งด้วยดอกไม้สุดหวาน ด้านในนี้คือได้อยู่ในโลกที่มีแค่เราสองคนจริง ๆ แถมอยู่ในมุมที่สามารถนั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศ มองเห็นวิวเมือง เห็นพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างพอดิบพอดี ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทานอาหารล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า ถ่ายรูปมุมไหนก็สวยกับบรรยากาศความเวอร์วัง ให้ฟีลแบบผู้ดีอังกฤษ ให้คะแนนเต็ม 100 ที่ไม่อยากให้พลาดด้วยประการทั้งปวง โดยเฉพาะวันวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงแบบนี้

สำหรับเมนูอาหารสไตล์ Modern French Twist Asian รสชาติแบบเอเชียน ผสมผสานความอร่อยได้อย่างลงตัว รังสรรค์ออกมาด้วยความบรรจงแประณีต สวยงามราวกับผลงานศิลปะ เมนูแนะนำของค่ำคืนนี้ที่เราอยากบอกต่อ

• Foie gras toast / ชิ้นใหญ่เต็มคำ ทานคู่ขนมปังกรุบกรอบ ทานแล้วอยากทานต่อเรื่อยๆ
• Lacol waffle special set / เมนูรวมสารพัดเนื้อเกรดดีเยี่ยม ทั้งล็อบสเตอร์ ปู กุ้ง ทูน่า รวมไปถึงผลไม้ต่าง ๆ วิธีทานคือให้คลุกทุกอย่างเข้าด้วยกัน แล้วปาดเป็นคำ ๆ ลงบนวาฟเฟิล
• Uni & Crab pasta / ยกให้เป็นที่สุดของโต๊ะนี้ พาสต้าเนื้อเนียน ท็อปด้วยเนื้อปู อูนิ ไข่ปลาคาเวียร์ ไข่ปลาแซลมอน ทานหมดจนหยดสุดท้ายไม่เกินจริง
• Japanese pumpkin soup / ซุปเนื้อเนียนนุ่ม ละมุนลิ้น ใครชอบทานฟักทองสามารถตักทานเนื้อได้ทั้งชิ้น
• Smoked salmon and caviar / เมนูทานเล่นเรียกน้ำย่อย จะสั่งมาทานคู่กับเครื่องดื่มก็ลงตัวเลย

แนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้าโดยเฉพาะโซนโดมแก้วที่จะเต็มไวมาก! เพราะใครๆ ก็อยากดื่มด่ำกับชั่วโมงต้องมนต์ที่ดวงอาทิตย์ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีทอง แบบไม่ต้องกังวลกับความร้อน เพราะด้านในมีบริการติดแอร์แบบเย็นฉ่ำ หรือใครที่ชอบโซนบาร์ขนาดใหญ่ ก็มีบาริสต้าคอยเสิร์ฟเครื่องดื่มให้เช่นกัน

Opera Italian Restaurant

มาต่อกันที่ร้านที่สอง หากใครอยากพาคนพิเศษย้อนอดีต ไปสัมผัสกับความหรูหราสุดคลาสสิกสไตล์ฝรั่ง โดยเฉพาะในค่ำคืนวาเลนไทน์ ต้องร้านนี้เลย ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เดินทางง่ายไม่ยุ่งยาก เปิดมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1983 การันตีได้ถึงคุณภาพ และรสชาติอาหารที่ถูกบอกต่อแบบปากต่อปาก ร้านให้บรรยากาศดีมากสไตล์ผู้ดีอังกฤษ เดินเข้าไปในร้านคือว้าวเลย ภายในร้านออกแบบและตกแต่งราวกับงานศิลปะ สถาปัตยกรรมที่สวยล้ำ มีบาร์ครึ่งวงกลมขนาดใหญ่ตั้งอยู่กลางร้านพร้อมบันไดอันเป็นเอกลักษณ์ของยุคสมัยนั้น ตามฝาผนังเต็มไปด้วยภาพถ่ายที่บอกเล่าเรื่องราวของ L’Opera ตั้งแต่สมัยอดีต สื่อออกมาเป็นภาพรอยยิ้ม มิตรภาพ รวมไปถึงความสุขที่ได้ทานอาหารมื้อพิเศษนี้

ตัวร้านมีทั้งหมด 2 ชั้น จัดวางมุมต่าง ๆ แทบไม่ซ้ำกัน และมีมุมที่นั่งให้หลายโซน มีมุมถ่ายรูปให้เยอะมาก มุมไฮไลท์จะเป็นบันไดวน และมุมระเบียงชั้นสอง มีมุมที่เป็นบาร์ทำอาหารของเชฟ และทีมครัว ที่เราจะได้เห็นในแต่ละเมนูที่เชฟรังสรรค์จนมาถึงโต๊ะเราทุกขั้นตอน ที่กว่าจะเป็นเมนูพิเศษมาให้เราได้ทานนั้น ต้องพิถีพิถันอย่างมาก เหมือนกับความรักของคนที่เราพาไปเดท ที่เราพิถีพิถันใส่ใจในทุกความรู้สึก

เมนูที่ร้านเป็นอาหารอิตาเลียนสไตล์โมเดิร์น เน้นเสน่ห์ของการทานอาหารอิตาเลียนแท้ ๆ มีเมนูอาหารให้เลือกสั่งเยอะมากที่เรารอยากแนะนำ

• Crudo e rucola / พิซซ่าแป้งนุ่ม ๆ อร่อยมาก โรยหน้าด้วยวัตถุดิบพิเศษจากทางร้าน
• Branzino alla piastra, Peas puree / ปลากระพงย่างมาแบบพอดีราดซอสถั่วลันเตา
• Linguine alle vongole / สปาเก็ตตี้รสชาติกลมกล่อม เส้นเหนียวนุ่ม หอยลายตัวใหญ่ ๆ
• Burrata caprese / สลัดของคนรักมะเขือเทศและบูร์ราตา ตัวมะเขือเทศหวานฉ่ำอมเปรี้ยวนิด ๆ ทานแล้วสดชื่น เป็นจานเบา ๆ ที่ควรลอง

ส่วนตัวคุณปุ๋ย Chill with me แนะนำโซฟาเบาะเขียวใต้ต้นไม้ใหญ่เป็นพิเศษ เพราะให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง ระหว่างทานอาหารจะมีเสียงเพลงคลอเบา ๆ เพิ่มอรรถรสของมื้อพิเศษได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้ามากับคนรู้ใจคงจะโรแมนติกไม่น้อยเลย

นอกจากนี้ก็ยังมีพวก Special Mocktail ในทุก ๆ ซีซั่น อย่างวันที่เรามาก็จะเป็นฤดูแห่งความรัก ตัวเครื่องดื่มก็จะถูกออกแบบมาเพื่อช่วงนี้โดยเฉพาะ หรือใครอยากลองเป็นเมนูตัวไหนที่รสชาติถูกปากก็สามารถแจ้งพี่ ๆ พนักงานได้เช่นกัน ที่ร้านจะเปิดทั้งหมด 2 รอบ คือรอบ Lunch และ Dinner อย่าลืมโทรเช็กก่อนไปทานมื้อพิเศษกันด้วยน้า

Apéro

คาเฟ่ร้านอาหารเปิดใหม่ ยกให้เป็นสถานที่เดทวันวาเลนไทน์ บรรยากาศร้านสวยสบายตา หรือจะพาคนพิเศษในครอบครัวไปเราก็ยิ่งแนะนำ ด้วยวิวของเมืองหลวง อยู่ชั้น 7 บน Rooftop ของตึก Vaga Building ในซอยเพชรบุรี 47 ที่เดินทางสะดวกสบาย ที่เน้นความมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่น ที่ใช้โทนไม้สีอ่อนบวกสีขาวคลีนคุมโทนได้อย่างลงตัว ที่ร้านมีโซน In door ห้องแอร์เย็นฉ่ำ มีมุมกระจกให้ใกล้ชิดธรรมชาติ มองเห็นด้านนอกตกแต่งเป็นสวนญี่ปุ่นน่ารัก ๆ ให้บรรยากาศสวนลอยฟ้า และโซน Out door เป็นแบบเปิดรับลมเย็นสบาย ๆ

ช่วงกลางวันจะเป็นคาเฟ่จิบกาแฟชิล ๆ ส่วนช่วงบ่ายถึงกลางคืนมีทั้ง Beers Wines และ Cocktails สาย Hangout หรือคนที่อยากหาที่ Dinner กับอาหารอร่อย ๆ แนะนำเลย ช่วงกลางคืนบรรยากาศแสงสีจากเมืองได้ฟีลไปอีกแบบ ใครที่ชอบถ่ายรูปสวย ๆ แนะนำให้มาช่วงเย็นเวลา 4 - 6 โมงเย็น วิวพระอาทิตย์ตกท่ามกลางวิวเมือง แสงดีละมุนมาก ถ่ายรูปออกมาได้สวยทุกมุม บรรยากาศอบอุ่นเหมาะจะใช้เวลาอยู่กับคนพิเศษเช่นกัน

ด้วยความที่ตัวร้านเน้นนั่งดื่มชิล ๆ เมนูส่วนใหญ่จะเป็นเมนูทานเล่นไซส์มินิ ข้อดีคือเราสามารถเลือกสั่งได้หลายจาน สั่งได้หลากหลาย เมนูที่เราสั่งมาลอง อร่อยมากขอบอกต่อ

• Grilled Sweet Corn / เมนูข้าวโพดหวานย่าง ราดน้ำซอสสูตรเข้มข้น แล้วท็อปด้วยชีสหอม ๆ
• Friend Potato with Truffle Mayo / มันอบซอสเห็ดทรัฟเฟิล ชามนี้หอมมาก
• Garlic Prawn / กุ้งกระเทียมตัวใหญ่เต็มจาน ใครเป็นสายซีฟู้ดต้องจัด
• Pork Tenderloin / สันในหมูย่างชุ่มซอสนัว ๆ
• Grilled Chicken Wings / ปีกไก่ย่างที่เราคุ้นเคย แต่จัดเสิร์ฟในรูปแบบที่แปลกใหม่
• Aperol Spritz / เครื่องดื่มทานง่าย ชิล ๆ จอย ๆ ได้ทั้งคืน

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านโรแมนติกที่ทั้งสวย และอาหารก็อร่อยถูกปาก จะพาใครไปรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน

Salvia

ร้านอาหารสุดโรแมนติก กับบรรยากาศสุดหรู ตั้งอยู่ในโรงแรม Grand Hyatt Erawan Bangkok ใจกลางแยกราชประสงค์ เหมาะกับคนไม่ชอบการเดินทางที่ยุ่งยาซับซ้อน ที่นี่เป็นร้านอาหารอิตาเลียน มีเชฟชาวอิตาเลียนเป็นผู้ดูแลเมนูอาหารทั้งหมด ภายในร้านตกแต่งสไตล์เรียบแต่โก้ เน้นโทนสีน้ำตาลของเฟอร์นิเจอร์ไม้ กว้างใหญ่อลังการแต่ก็ยังให้ความรู้สึกสบาย ๆ มีห้อง Private สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัว หรือใครอยากจัดงานเลี้ยง งานแต่ง ทางร้านก็มีห้องบริการให้เรียบร้อย จุดเด่นอยู่ที่บันไดขนาดใหญ่กึ่งกลางร้าน ที่ใครมาก็ต้องให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในปราสาทในเทพนิยายแน่ๆ

อาหารของที่ร้านเป็นสไตล์อิตาเลียนโฮมเมดแบบดั้งเดิม ทางร้านเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ นำเข้าจากต่างประเทศ และวัตถุดิบท้องถิ่นในประเทศไทย มีเมนูที่หลากหลายเลย เมนูที่เราสั่งมาทาน 2 คน คืออิ่มมาก

• Fusilli Caserecci al ragu d’agnello / เส้นฟูซิลี่เส้นสดใหม่สูตรเฉพาะของห้องอาหารตัวซอสเป็นรากูเนื้อเนื้อแกะ รสชาติเข้มข้น
• Risotto zucca e finferli / จานนี้เหมาะสำหรับเป็นเมนูเรียกน้ำย่อย ข้าวคาร์นาโรลิเม็ดใหญ่ รสชาติเข้มข้น
• Polletto alla diavola / ไก่ย่างซอสไวน์แดง คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศสไตล์อิตาเลียน
• Prosciutto di Parma / พิซซ่าถาดเล็กไซส์สำหรับ 2 คน ใครชอบพาร์มาแฮมต้องลอง
• Patate al forno / มันฝรั่งอบชิ้นเล็กพอดีคำ ทานเพลินเหมาะกับการเป็นของทานเล่นที่ควรมีอยู่บนโต๊ะ
• Purea di patate all aglio / มันฝรั่งบดเนื้อเนียนนุ่ม สั่งมาทานคู่กับอาหารจานหลักได้แทบทุกเมนู
• Strawberry Martin / เครื่องดื่มสุดละมุน ความพิเศษคือจะมีพนักงานมาบริการให้ถึงโต๊ะเลย

บรรยากาศของตัวร้านค่อนข้างเงียบสงบและอบอุ่น คนไม่พลุกพล่าน ตัวห้องอาหารจะเปิดให้เข้ามาทาน 2 มื้อ คือมื้อเที่ยงและมื้อเย็น สำหรับใครที่สนใจเราแนะนำให้จองโต๊ะล่วงหน้า เพราะที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งร้านที่โต๊ะเต็มไวมากเช่นกัน จะได้ไม่พลาดสถานที่พิเศษ สำหรับคนพิเศษของคุณกันน้า

และนี่ก็คือ 4 ร้านโรแมนติก สำหรับเดือนแห่งความรัก ที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนไปลองแวะเวียนดื่มด่ำบรรยากาศด้วยกัน และเช่นเคย...สำหรับใคนที่ไม่อยากพลาดเรื่องราวดีๆ ก็อย่าลืมแวะเวียนเข้ามาอัพเดตกันได้ที่เว็บไซต์นี้ รับรองว่ามีร้านเด็ดๆ โดนๆ มาป้ายยากันอีกแน่นอน อย่าลืมให้บัตรเครดิตในเครือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ช่วยดูแลในทุกมื้อสำคัญของคุณกันน้า

* สำหรับบัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% * สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว