Phishing และ AI Deepfake ... ภัยทุจริตที่มาพร้อมเทคโนโลยียุคใหม่

วันที่ : 31 May 2024 ผู้เขียน : Krungsri Consumer

อินเทอร์เน็ตอาจจะเป็นส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตสำหรับคนยุคนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่พูดถึงไม่ได้คือภัยทุจริตที่มักจะแอบแฝงมากับการใช้งานอินเตอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ จึงอยากพูดถึงเรื่อง Phishing ภัยทุจริตที่มาพร้อมกับโลกยุคใหม่ และ AI Deepfake เพื่อให้ทุกคนมีความรู้ความเข้าใจ และเตรียมพร้อมรับมือเพื่อไม่ให้มีความเสียหายเกิดขึ้น

Phishing

คือ รูปแบบของการหลอกลวงผ่านช่องทางการใช้งานอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ทั่วไป ซึ่งไม่ใช่การหลอกลวงที่พบเห็นกันทั่วไป แต่จะเป็นกลยุทธ์การหลอกลวงที่ใช้วิธีการทางจิตวิทยาเข้าร่วมด้วย ในรูปแบบของอีเมล, SMS (Smishing) , เว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยมิจฉาชีพจะปลอมแปลงว่าตนเองเป็นผู้ส่งข้อมูลมาจาก องค์กรที่น่าเชื่อถือ เช่น หน่วยงานของรัฐ หรือ องค์กร ที่น่าเชื่อถือ ที่พอผู้ใช้หลายคนได้เห็นข้อความก็จะเกิดความเชื่อว่าปลอดภัย และยอมทำตามโดยง่าย

โดยทั่วไปข้อความเหล่านี้จะมี Link ให้เหยื่อกดเพื่อย้ายไปยังหน้าเว็บอื่นเพื่อทำการกรอกข้อมูล และแน่นอนว่า Website หรือ Link นั้นๆ เลียนแบบเสมือนต้นฉบับจริงเกือบ 100%

มิจฉาชีพจะหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นความลับ ไม่ว่าจะเป็นหมายเลขบัตรบัตรเครดิต, รหัสผ่าน, หมายเลขประชาชน, หมายเลข Passport รวมไปถึงข้อมูลลับทางการเงิน ทั้งเลขที่บัญชีธนาคารและรหัสผ่าน หรือถ้าหนักกว่านั้น ก็จะเป็นการหลอกให้เรากดยอมรับและติดตั้งไวรัสตัวร้ายเข้าสู่คอมพิวเตอร์ หรือ โทรศัพท์มือถือ

Phishing ที่กำลังระบาดอย่างหนัก ในช่วงนี้ เป็น SMS ที่แจ้งปัญหาการส่งสินค้า หรือพัสดุ และอีกกลุ่มที่แจ้งว่า คะแนนกำลังจะหมดอายุ จากการเป็นสมาชิกต่างๆ เช่น เครือข่ายมือถือ,ห้างสรรพสินค้าซึ่ง SMS ดังกล่าวจะมีการแนบ link เข้ามา โดยมีจุดสังเกตดังนี้

  • Sender Name บางครั้งมักจะไม่ตรงกับชื่อของหน่วยงานหรือองค์กรที่ส่ง หรือ ไม่ก็จะแสดงเป็นตัวเลขแปลกๆ หรือ หมายเลขโทรศัพท์
  • Link ที่แนบมาจะไม่ตรงกับ Official Name หรือ ชื่อที่เป็นทางการของบริษัทเหล่านั้น หรือ อาจจะเป็นชื่อที่คล้ายกันแต่ไม่ตรงกับชื่อ เว็บไซต์ จริงขององค์กร หรือร้านค้าเหล่านั้นซะทีเดียว
  • เมื่อกดเข้า Link จะมีการขอข้อมูลบัตรเครดิต ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกันเลย หรือไม่ก็จะขอให้ชำระเงินด้วยยอดจำนวนไม่มากผ่านบัตรเครดิต
  • OTP ที่ทางธนาคารส่ง จะมีชื่อร้านค้าซึ่งไม่ตรงกับ เว็บไซต์ ที่คุณกำลังทำรายการชำระเงินให้อยู่

Phishing คือ อันตรายในยุคปัจจุบันที่ทุกคนต้องรู้ให้ทันเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หากเราให้ความระมัดระวังในจุดสังเกตที่ได้กล่าวไป โดยเฉพาะข้อความที่ทางกรุงศรี คอนซูมเมอร์นำส่ง OTP ให้กับลูกค้า จะมีการระบุชื่อร้านค้าและจำนวนเงินไว้อย่างชัดเจน หากลูกค้าสังเกตก่อนที่จะทำรายการ หรือ ใส่ OTP ในหน้า เว็บไซต์ ใดๆ ก็จะสามารถช่วยระวังภัยจาก Phishing ได้อย่างแน่นอน

 

AI Deepfake

คือ Generative AI รูปแบบหนึ่ง ที่สามารถสร้างสื่อสังเคราะห์ ทั้งภาพนิ่ง เสียง ภาพเคลื่อนไหวพร้อมเสียง ที่เหมือนเป็นคนมาพูดหรือคุยจริงๆ จนแทบแยกไม่ออก ด้วยระบบการเรียนรู้หรือ Deep Learning จากลักษณะภายนอกของบุคคล เช่น สีผิว ตา ปาก จมูก รูปลักษณ์ต่างๆ ด้วยความฉลาดล้ำจากการเรียนรู้ข้อมูลมหาศาลของ Generative AI จึงทำให้การสร้างภาพและเสียง มีความเหมือนราวกับว่า คนๆ นั้นเป็นคนพูดจริงๆ

ในปัจจุบันมิจฉาชีพได้นำมาใช้ เป็นเครื่องมือในการแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ หลอกลวงให้โอนเงิน หรือหลอกเอาข้อมูลเพื่อไปทำธุรกรรมต่างๆ

"เสียง AI” แตกต่างจากเสียงมนุษย์อย่างไร?"

  • จังหวะการเว้นวรรคคำพูด เสียงพูดจาก AI จะไม่มีอารมณ์หรือความรู้สึก เสียงจึงจะไม่มีจังหวะหยุด ไม่มีเว้นวรรคเพื่อหายใจ และจะพูดเป็นประโยคยาวๆ
  • น้ำเสียงราบเรียบ ไม่มีการเน้นน้ำหนักเสียง หรือเน้นเสียงในจุดที่มีความสำคัญ
  • คำทับศัพท์ AI  จะพูดคำศัพท์เฉพาะไม่ค่อยชัด คำบางคำเวลาออกเสียง จะมีความผิดเพี้ยนไปบ้าง เนื่องจาก AI อาจยังไม่สามารถออกเสียงวรรณยุกต์ เสียงสูง-ต่ำ ได้ในบางคำ

การสังเกต"ใบหน้า"ที่สร้างจาก AI

  • การขยับริมฝีปาก หากเป็นคลิปสร้างจาก AI การขยับปากของคนในคลิปจะไม่สอดคล้องกับเสียงในวิดีโอ และดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • ใบหน้า มีลักษณะที่ผิดสัดส่วนธรรมชาติ โดยเฉพาะเมื่อก้มเงยหน้าหรือหันซ้ายหันขวา
  • สีผิว เข้ม หรือ อ่อนเป็นหย่อมๆ แสงและเงาบริเวณผิวไม่สอดคล้องต่อการเคลื่อนไหว
  • การกะพริบตา ถี่เกินไป หรือ น้อยเกินไป ดูไม่เป็นธรรมชาติ

หวังว่าทุกท่านจะได้ความรู้ ความเข้าใจ ในเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มิจฉาชีพพยายามปรับเปลี่ยนวิธีการ ทำให้รู้เท่ากลโกงที่จะมาในรูปแบบต่างๆ พร้อมรับมือเพื่อไม่ให้มีความเสียหายเกิดขึ้นกับตนเองได้

หากใครคิดว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ อย่าลืมส่งต่อเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่น เช่น คนใกล้ตัว คนที่คุณรัก 

- บัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
- สินเชื่อส่วนบุคคล กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

 

 
แชร์บทความนี้ไปยัง

บทความน่าสนใจอื่นๆ