มือถือในมือคุณปลอดภัยแค่ไหน? ป้องกันภัยจากแก๊งมิจฉาชีพให้ได้ผล

วันที่ : 31 Aug 2024 ผู้เขียน : Krungsri Consumer

ภัยจากแก๊งมิจฉาชีพมีหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะมาในรูปแบบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ติดต่อแอบอ้างจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ หรือ แก๊งมิจฉาชีพที่ใช้เทคนิคการส่ง SMS เพื่อหลอกเหยื่อ โดยแฝงตัวตามแหล่งชุมชนพร้อมอุปกรณ์กระจายสัญญาณเคลื่อนที่เพื่อดักสัญญาณ SMS และปลอมแปลงข้อความเพื่อหลอกเหยื่อ ขโมยข้อมูลส่วนตัว เช่น บัตรประชาชนและข้อมูลการเงิน กำลังคุกคามประชาชนคนไทยอย่างหนักหน่วงในปัจจุบัน และภัยที่มิจฉาชีพใช้หลอกล่อเหล่านี้เกิดจากการใช้มือถือที่ทุกคนจะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน

วันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับการป้องกันภัยทางมือถือจากแก๊งมิจฉาชีพมาเป็นความรู้ เพื่อให้ทุกคนสามารถรับมือกับภัยเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Factory Reset(คืนค่าจากโรงงาน)

เราอาจไม่รู้ตัวว่าเครื่องโทรศัพท์มือถือของเราได้มีการถูก Remote Access (สิงเครื่อง) โทรศัพท์มือถือไปแล้วหรือไม่ ? แต่หากเมื่อเราได้รับการติดต่อจากหมายเลขโทรศัพท์หมายเลขแปลกๆ และได้เผลอเข้าไปกรอกข้อมูลบางอย่างหรือเผลอไปกด Link แปลกๆ เข้าแล้ว ให้เราสงสัยไว้ก่อนเลยว่า “เรามีโอกาสที่จะถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เข้ามาทำการสิงเครื่องโทรศัพท์มือถือของเราแล้ว“

เพื่อความปลอดภัย เราควรที่จะต้องป้องกันไว้ก่อน โดยทำการ Factory Reset (คืนค่าจากโรงงาน) เพื่อให้โทรศัพท์มือถือของเรากลับไปเหมือนเดิมเหมือนตอนที่ซื้อเครื่องมาใช้งานใหม่ โดยหลักการคือ วิธีการดังกล่าวระบบจะทำการลบ Application ที่ไม่ได้มาจากการติดตั้งจากโรงงานผู้ผลิต (ลบ Application ที่มีการติดตั้งภายหลัง) ออกทั้งหมด

วิธีการทำ Factory Reset(คืนค่าจากโรงงาน)

  • 1.เข้าไปที่ "การตั้งค่า"(Settings)
  • 2.แตะที่หัวข้อ "เกี่ยวกับโทรศัพท์"(About phone) หรือ "ระบบ"(System)
  • 3.แตะที่หัวข้อ "คืนค่าจากโรงงาน"(Factory reset) หรือ "สำรองหรือคืนค่าข้อมูล"(Backup & Reset)
  • 4.แตะยืนยันการล้างเครื่อง โดยอาจมีให้กรอกรหัสผ่าน

หมายเหตุ:วิธีการดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้ง IOS และ Android

ซึ่งกระบวนการนี้จะไม่ลบข้อมูลที่มาจากโรงงาน เช่น แอปพลิเคชันพื้นฐานที่ติดตั้งมาตั้งแต่แรก นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้งแอปพลิเคชันที่ไม่ปลอดภัยหรือมีไวรัส การทำ Factory Reset จะช่วยให้ระบบกลับมาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น แต่ก่อนที่จะทำการรีเซ็ต ควรทำการสำรองข้อมูลสำคัญ เช่น รูปภาพ วิดีโอ และข้อมูลส่วนตัวอื่นๆ ไว้ในที่อื่นก่อน เพื่อป้องกันการสูญหายของข้อมูลที่มีค่าและสำคัญของเรา

Lockdown Mode (โหมดล็อคดาวน์)

ผู้พัฒนาระบบมือถือได้ให้ความสำคัญด้านความปลอดภัยและภัยคุกคามจากไซเบอร์ ทั้งระบบปฏิบัติการจาก iOS และ Android ที่มีฟีเจอร์การรักษา “ความปลอดภัยขั้นสูง” ปกป้องอุปกรณ์จากการโจมตีทางไซเบอร์ด้วย "โหมดล็อกดาวน์" ที่จะทำหน้าที่ป้องกันอุปกรณ์จากภัยคุกคามที่มุ่งเป้าโจมตี

เมื่อใช้งานโหมดล็อกดาวน์ อุปกรณ์จะทำงานแตกต่างจากเดิม เพื่อลดพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตี โดยจะจำกัดความปลอดภัยของแอป เว็บไซต์ เช่น บล็อกแอปจากแหล่งที่มาที่ไม่ได้รับอนุญาต, ลิงก์ข้อความ, รูปภาพ, การเชื่อมต่ออุปกรณ์ และคุณสมบัติบางอย่าง อาจไม่สามารถใช้งานฟังก์ชันบางอย่างได้

ทางบริษัทฯ ตระหนักถึงความปลอดภัยของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ จึงขอนำเสนอการใช้งาน Lockdown Mode ให้กับลูกค้าทุกท่านรับทราบ และเพื่อเป็นการป้องกันต่อไป ดังนี้

วิธีเปิด Lockdown Mode บน IOS (IPhone)

  • 1.เปิด Application "การตั้งค่า" (Setting)
  • 2.แตะ "ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย"(Privacy & Security)
  • 3.เลื่อนลง แตะ "โหมดล็อคดาวน์"(Lockdown Mode)
  • 4.แตะเปิดโหมดล็อคดาวน์
  • 5.แตะเปิดและรีสตาร์ท และป้อนรหัสผ่านอุปกรณ์ของท่าน

วิธีเปิด Lockdown Mode บน Android

  • 1.เปิด Application "การตั้งค่า"(Setting)
  • 2.แตะ "ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย"(Security & Privacy)
  • 3.เลื่อนลง แตะ "ตัวบล็อคอัตโนมัติ"(Auto Blocker Mode)
  • 4.แตะเปิดโหมดตัวบล็อคอัตโนมัติ
  • 5.ตรวจสอบและยินยอมต่อใบอนุญาตผู้ใช้ปลายทางและนโยบายความเป็นส่วนตัว(Agree)

การตระหนักถึงความเสี่ยงและการปฏิบัติตามขั้นตอนที่เหมาะสมจะช่วยให้เราปลอดภัยจากการถูกล้วงข้อมูลและการโจมตีทางไซเบอร์ การให้ความรู้และการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับภัยจากแก๊งมิจฉาชีพเป็นเรื่องที่สำคัญ ทั้งจากหน่วยงานรัฐบาล องค์กรและสื่อมวลชน รวมถึงทาง กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เพื่อที่จะสร้างสังคมที่ปลอดภัยและมีความรู้ในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในยุคดิจิทัลนี้

- บัตรเครดิต ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

- สินเชื่อส่วนบุคคล กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว

แชร์บทความนี้ไปยัง

บทความน่าสนใจอื่นๆ